Lazada Flash Sale

โปรฟ้าผ่า!! รับซัมเมอร์

ลดแรงกว่า 90%* ช้อปเลย »

How to วิธีเลี้ยง ดูแล ปอมเมอเรเนียน ให้ถูกต้อง ฉบับมือโปร!

สุนัข ปอมเมอเรเนียน มีต้นตระกูลอยู่ทางบริเวณตอนเหนือของทวีปยุโรป จัดว่าเป็นสัตว์เลี้ยงสายพันธุ์ที่เล็กที่สุดของแถบนั้นเลยก็ว่าได้ บริเวณศีรษะมีลักษณะเป็นลิ่มหูเล็กชี้ขึ้นมองดูแล้วคล้ายสุนัขจิ้งจอก จุดเด่นของสุนัขพันธุ์นี้ก็คือขนที่มีลักษณะเป็นสองชั้น ชั้นแรกจะมีความหนาและฟูฟ่อง ส่วนชั้นที่สองจะมีลักษณะยาวตรงและหยาบ ปัจจุบันได้รับความนิยมเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก

ลักษณะของปอมเมอเรเนียน

ปอมเปอเรเนียนมีลักษณะที่ค่อนข้างแตกต่างไปจากสุนัขพันธุ์อื่น ๆ อยู่มาก โดยมีลำคอและช่วงหลังสั้น หางจะวางอยู่ตำแหน่งสูงราบบนหลัง ขาหน้าเหยียดตรง ขาหลังไม่ถ่างออก ในส่วนของสีขนจะมีมากถึง 23 สี และ 9 รูปแบบลวดลาย โดยส่วนมากที่พบเห็นบ่อยที่สุดก็คือ สีน้ำตาลเข้ม สีน้ำตาลอ่อน สีส้ม สีขาว สีแดง สีลายเสือหินอ่อน เป็นต้น ในส่วนของลักษณะใบหน้าจะมีความแตกต่างกันตามสายพันธุ์ ได้แก่

  1. ปอมเมอเรเนียนหน้าหมี เป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดด้วยลักษณะใบหน้าที่มองดูคล้ายหน้าหมี กระบอกปากสั้นกลม ดวงตาอยู่ใกล้กันและอยู่ห่างจากปากไม่มากนัก
  2. ปอมเมอเรเนียนหน้าตุ๊กตา ลักษณะของใบหน้าจะแบนกว่าปอมเมอเรเนียนหน้าหมี ดวงตาจะอยู่ห่างจากปากมากกว่าเล็กน้อย และกระบอกปากสั้น
  3. ปอมเมอเรเนียนหน้าจิ้งจอก ลักษณะของกระบอกปากจะมีความยาวและแหลมซึ่งมองดูคล้ายสุนัขจิ้งจอก

รายละเอียดเพิ่มเติม

อุปนิสัยสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน

สุนัขพันธุ์นี้จะมีความคล่องแคล่วและเฉลียวฉลาดมาก เป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความกล้าหาญและซื่อสัตย์ แต่ในขณะเดียวกันกลับไม่ชอบเล่นกับเด็ก ๆ เพราะอาจจะด้วยรูปร่างของมันที่มีขนาดเล็กจึงมีความเกรงกลัวว่าจะถูกรังแกและข่มเหงได้ นอกจากนั้นยังเป็นสุนัขที่มีเสียงเห่าดังและแหลม เหมาะมากที่จะนำไปฝึกให้กลายเป็นสุนัขเฝ้าเวรยามเพื่อคอยเตือนให้เจ้าของบ้านได้รับรู้เมื่อมีการบุกรุก

แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายไม่แพ้กันเพราะในปัจจุบันสุนัขพันธุ์นี้กลับไม่ได้รับการฝึกฝน จนบางตัวกลายเป็นสุนัขที่เห่าแบบไร้เหตุผลอย่างไม่หยุด ทำให้เกิดความน่ารำคาญแก่เพื่อนบ้าน เพราะด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้หลาย ๆ คนไม่ค่อยชอบเสียงเห่าของมันสักเท่าไร ดังนั้นก่อนตัดสินใจหามาเลี้ยงลองนำข้อมูลเหล่านี้ไปพิจารณาตัดสินใจกันดู

วิธีเลี้ยงและดูแล ปอมเมอเรเนียน

  1. ช่วงอายุระหว่าง 4 – 7 เดือน จะมีการผลัดขนครั้งแรกในปริมาณมาก แนะนำให้เจ้าของเริ่มทำการแปรงขนจากนั้นขนจะเกิดขึ้นใหม่อย่างสวยงามและมีลักษณะฟูฟ่องเมื่อโตขึ้น
  2. เมื่อโตเต็มวัยในช่วงอายุครบ 1 ปี ขนจะมีความหนาถึง 2 ชั้น และขนจะมีความยาวมากขึ้นด้วย จึงไม่จำเป็นที่จะต้องแปรงขนและอาบน้ำบ่อย โดยแนะนำให้ทำเพียงแค่สัปดาห์ละ 2 ครั้งก็พอ
  3. เมื่อไหร่ก็ตามที่เข้าสู่ฤดูผลัดขนจะต้องทำการแปรงขนให้อยู่เสมอ ๆ
  4. ในส่วนของการออกกำลังกายนั้นแค่พาเดินเล่นเบา ๆ รอบบ้านหรือเดินเล่นในสวนก็เพียงพอแล้ว เพราะน้องไม่ค่อยชอบออกกำลังกายหนัก ส่วนมากจะเน้นการใช้ของเล่นเป็นสำคัญ เพราะจะช่วยให้น้องมีความสุขกับการเล่นมากกว่า

โรคที่พบบ่อยในสุนัข ปอมเมอเรเนียน

  1. โรคสะบ้าเคลื่อน เป็นโรคที่มาคู่กับน้องหมาสายพันธุ์นี้จริง ๆ โดยมีสาเหตุมาจากลูกสะบ้าเคลื่อนออกจากร่องกระดูก ส่งผลทำให้น้องมีอาการเจ็บปวด เดินผิดปกติ มีอาการเจ็บขา เดินยกขา ไม่สามารถที่จะเหยียดข้อขาได้ ถ้าหากมีอาการปวดหนักมากอาจจะเกิดจากการบิดของกระดูกขาร่วมด้วย ซึ่งวิธีการป้องกันไม่ให้เป็นโรคสะบ้าเคลื่อนในเบื้องต้นควรหลีกเลี่ยงไม่ให้น้องหมากระโดดจากที่สูง หลีกเลี่ยงการเดินบนพื้นลื่น ๆ ห้ามให้กระแทกกับสิ่งของต่าง ๆ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์และตัดขนเท้าให้เรียบอยู่เสมอ
  2. โรคหลอดลมตีบ มักจะมีอาการไอแห้ง ๆ หรือหายใจหอบเสียงดังเมื่อรู้สึกตื่นเต้นหรือเมื่ออากาศเย็น ซึ่งสาเหตุของโรคนี้เกิดจากอวัยวะที่เชื่อมต่อจากกล่องเสียงไปยังปอดที่ประกอบไปด้วยกระดูกอ่อนนั้นเกิดการอ่อนตัว จนทำให้หลอดลมแคบและไม่สามารถเปิดรับออกซิเจนได้อย่างเพียงพอ มีอาการหายใจลำบาก เกิดภาวะลิ้นม่วง มีโอกาสที่จะทำให้เสียชีวิตได้ วิธีการป้องกันไม่ให้เป็นโรคนี้ในเบื้องต้นก็คือควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ หลีกเลี่ยงการสัมผัสอากาศชื้นหรืออากาศที่เย็นมาก ๆ

อาหารที่เหมาะกับสุนัขพันธุ์ปอม

อาหารสุนัข พันธุ์ปอม

โดยปกติแล้วน้ำหนักที่จัดว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของสุนัขพันธุ์ปอมจะอยู่ที่ประมาณ 1.9 – 3.5 กิโลกรัม ไม่ควรเลี้ยงให้อ้วนจนเกินไปเพราะจะทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพต่าง ๆ ได้ ส่วนใหญ่จะเน้นให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ช่วยในเรื่องการบำรุงขนให้ฟูฟ่องสวยงามอยู่ตลอดเวลา โดยปริมาณในการให้อาหารหลัก ๆ จะขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวและช่วงอายุ

รายละเอียดเพิ่มเติม

  • อายุ 4 – 7 เดือน ซึ่งเป็นช่วงวัยเด็กน้ำหนักควรจะอยู่ที่ 1 – 2 กิโลกรัม วัยนี้มีความเสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำและสูงได้ อีกทั้งยังเป็นช่วงที่น้องหย่านมจึงจำเป็นที่จะต้องได้รับอาหารในปริมาณที่มาก ควรแบ่งอาหารให้เป็น 4 มื้อ ในแต่ละมื้อควรให้อาหารในอัตราส่วน 3 ใน 4 ถ้วย จะให้กินเป็นอาหารเม็ดสำหรับลูกสุนัขหรืออาหารสำเร็จรูปก็ได้
  • อายุ 1 ปีขึ้นไป เป็นช่วงโตเต็มวัยให้ลดสัดส่วนในการให้อาหารสุนัขลงจาก 4 มื้อ เหลือประมาณ 2 – 3 มื้อต่อวัน โดยให้เน้นอาหารอย่างโปรตีนเป็นสำคัญเพื่อช่วยเพิ่มพลังงานและลดน้ำหนักตัว ที่สำคัญหลีกเลี่ยงการผสมอาหารสดและอาหารแห้งให้กิน เพื่อช่วยลดการเกิดแก๊สในกระเพาะอาหารและไม่ทำให้ระบบย่อยอาหารสับสน
  • อายุ 7 ปีขึ้นไป เป็นช่วงสูงวัยให้ลดปริมาณอาหารสุนัขลง แต่ยังคงให้กินวันละ 2 – 3 มื้อเหมือนเดิม โดยให้ลดอาหารประเภทโปรตีนจากเนื้อสัตว์แล้วให้เพิ่มเป็นเนื้อปลา พืช หรือแมลงให้มากขึ้น เพื่อช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งให้เน้นสารอาหารอย่างไฟเบอร์และวิตามินเพื่อช่วยให้มีสุขภาพที่แข็งแรง

ปอมเมอเรเนียน ได้รับความนิยมในบ้านเราเป็นอย่างมาก เพราะเป็นสุนัขที่มีความน่ารักน่าเอ็นดูทั้งรูปร่าง น่าตา และนิสัย สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้งปัจจุบันยังมีราคาที่ไม่แพงมากจนเกินไปด้วย

หากคุณตกหลุมรักเจ้าสุนัขพันธุ์นี้และอยากหามาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนไปไหนมาไหนด้วยกัน ก่อนอื่นควรตรวจเช็กความพร้อมในการเลี้ยงเพราะสิ่งที่สำคัญก็คือการดูแลเอาใจใส่ในเรื่องของอาหารสุนัขและเรื่องสุขภาพร่างกาย หากคุณเชื่อว่าตัวเองพร้อมที่จะเลี้ยง คุณก็จะพบกับความสุขจากเพื่อนที่ซื่อสัตย์พันธุ์นี้ได้อย่างแน่นอน และสำหรับใครที่เลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้อยู่แล้วหากต้องการแหล่งช้อปสินค้าสำหรับน้องหมาสามารถเข้าไปเลือกซื้อได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องเดินทางไปซื้อเองได่ที่ลาซาด้า

รายละเอียดเพิ่มเติม